วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ยามาฮ่าซุ่มเงียบดึง "ลอเรนโซ" กระทบไหล่แฟนคลับ

ฮอร์เก ลอเรนโซ รองแชมป์โลกโมโตจีพีคนล่าสุด จากค่ายเฟียต-ยามาฮ่า บินตรงมาเมืองไทยเพื่อทักทายแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทยให้ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ณ โชว์รูมรถจักรยานยนต์ยามาฮ่านำเข้า (Yamaha Riders’ Club) เอสพลานาด เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา

ซึ่งงานนี้นอกจากนักบิดสแปนิชวัย 22 ปี จะเดินทางมาเพื่อทักทายแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทยให้ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนไทยได้สัมภาษณ์อย่างเป็นกันเองอีกด้วย ซึ่ง MGR Sport ขอนำภาพบรรยากาศ ลอเรนโซอินไทยแลนด์มาฝากแฟนๆเป็นการเรียกน้ำย่อย ก่อนที่จะไปพบกับบทสัมภาษณ์เต็มๆต่อไป






MGR Sprot

"พีทีที" ยันหนุนต่อส่ง "ฟีม" บิด 600 ซีซี ปีหน้า

ปตท.(พีทีที) ค่ายผู้ผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่ของไทย ยืนยันสนับสนุนงบประมาณส่ง "ฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยลงแข่งขันเวิลด์ จีพี เป็นฤดูกาลที่ 4 ติดต่อกัน หลังนักบิดหน้าตี๋เตรียมขยับไปแข่งรุ่นโมโตทู (MOTO2) 600 ซีซี 4 จังหวะในฤดูกาล 2010

ฟีม จบฤดูกาล 2009 ด้วยอันดับ 13 ในรุ่น 250 ซีซี

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่สำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) นายปรัชญา ภิญญาวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บมจ.ปตท. เป็นประธานในงานเลี้ยงต้อนรับ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ หลังเสร็จสิ้นภารกิจแข่ง 250 ซีซี ในฤดูกาล 2009 ที่ผ่านมา

โดยรองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมันบมจ.ปตท. เผยถึงผลงานของนักแข่งสังกัดไทยฮอนด้าพีทีทีแซคว่า ทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ ด้วยการจบอันดับ 5 ได้ถึง 2 สนาม รวมถึงจบในอันดับท็อป 10 ได้ในช่วง 4 เรซสุดท้าย ซึ่งเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ

พร้อมกันนี้นายปรัชญายังยืนยันถึงแผนการของปตท.ในฤดูกาลหน้าว่า "ปตท.จะสนับสนุนฟีมต่อไปอย่างแน่นอน เรามั่นใจว่าศักยภาพของเด็กไทยคนนี้จะทำให้คนไทยได้เฮได้แน่นอน ซึ่งเป้าหมายที่เขาตั้งเอาไว้คือการยืนแป้นโพเดียม 1 ใน 3 แต่เราคิดว่าฟีมมีดีที่จะคว้าแชมป์ได้ในอนาคต"

อย่างไรก็ดีแม้จะไม่มีการเปิดเผยตัวเลขงบประมาณในการสนับสนุนฟีมใน ครั้งนี้ แต่เป็นที่คาดกันว่า ค่ายผู้ผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่ของไทย น่าจะจ่ายเงินส่งเสริมนักบิดไทยในเวทีโลกในจำนวนเลข 8 หลักเลยทีเดียว

ด้านหนุ่มฟีมที่ปีหน้าเตรียมขยับไปบิดรุ่นโมโตทู (MOTO2) 600 ซีซี 4 จังหวะ หลังรุ่น 250 ซีซี ถูกยกเลิกเผยถึงการปรับตัวในปีหน้าว่า "การขยับไปขับรุ่นใหญ่ขึ้นต้องมีการปรับตัวพอสมควร ผมมีโอกาสได้ลองเทสต์ในช่วงสั้นๆที่สเปน ยอมรับว่าเครื่อง 600 ซีซี แรงกว่าเดิมมาก"

"อย่างไรก็ดีแม้จะยังไม่ลงตัวเรื่องของเฟรมรถ (ตัวรถ) แต่ก็เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาทีมงานน่าจะเลือกเฟรมได้ลงตัว ส่วนเรื่องเครื่องที่ใหญ่ขึ้นก็จะมีการฝึกซ้อมบิดรถ 600 ซีซี ในเมื่องไทยเพื่อความคุ้นเคยไปพลางก่อน ก่อนที่จะบินกลับไปเทสต์รถคันใหม่อย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า" นักบิดวัย 21 ปีกล่าว


MGR Sprot

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ยืนยัน "ฟีม" ลงเอยแซคบิด MOTO2 ปีหน้า

นายอารักษ์ พรประภา


ASTV ผู้จัดการรายวัน - นายอารักษ์ พรประภา กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนดา จำกัด ยืนยันร้อยเปอร์เซนต์ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก จะขับให้กับทีม สต็อป แอนด์ โก (แซค) รุ่น MOTO2 600 ซีซี 4 จังหวะในฤดูกาลหน้า

เวลานี้ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ กลับมาพักผ่อนในช่วงปิดฤดูกาลที่ประเทศไทย หลังทำผลงานยอดเยี่ยมเก็บ 81 แต้ม คว้าอันดับ 13 ในรุ่น 250 ซีซี ปีที่ผ่านมา แต่ในปีหน้ารุ่นนี้จะถูกยกเลิกและเปลี่ยนเป็น MOTO2 600 ซีซี 4 จังหวะ นายอารักษ์ พรประภา บอสใหญ่ เอพี ฮอนดา ออกมาเผยในงานเปิดตัวรถมอเตอร์ไซด์ ฮอนดา รุ่น พีซีเอ็กซ์ ว่า "ฟีม" จะได้ลงแข่ง เวิลด์ จีพี เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน



"ตอนนี้สามารถยืนยันได้แล้วว่า ฟีม จะลงแข่งภายใต้ทีม สต็อป แอนด์ โก ต่อไปในปีหน้าในรุ่น MOTO2 600 ซีซี เพื่อนร่วมทีมคงเป็นคนเดิมคือ เฮคตอร์ เฟาเบล ส่วนรายละเอียดเบื้องต้นคุยกันเรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ เอดูอาร์โด เปราเลส เจ้าของทีมจะบินมาตกลงขั้นสุดท้ายที่เมืองไทย ไม่น่าจะมีปัญหาและคงมีการเซ็นสัญญาเกิดขึ้นอีกครั้ง" คุณอารักษ์ เผย

ส่วนในเรื่องเงินสนับสนุน นายอารักษ์ กล่าวว่า "งบประมาณตอนนี้คงจะไม่น้อยกว่าปีที่แล้วอยู่ที่ 1.3 ล้านยูโร (ประมาณ 65 ล้านบาท) สปอนเซอร์หลักเจ้าเดิมยังอยู่กันครบทั้ง พิซซา, ปตท. และ เอไอเอส แต่คาดว่าจะมีมาเพิ่มอีก โดยตอนนี้อยู่ระหว่างเจรจา"

จากนี้ "เจ้าฟีม" รัฐภาคย์ จะทำการทดสอบรถเครื่อง 600 ซีซี ในเบื้องต้นก่อนที่สนามพีระเซอร์กิต ประเทศไทย ในส่วนของตัวถังกำลังเลือกกันอยู่ คาดว่าจะเป็นจากค่าย เอฟทีอาร์ จากนั้นจึงจะเหินฟ้าไปทดสอบรถตัวจริงที่ประเทศสเปน ต่อไป

MGR Sprot

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

"เทพบุตรโซโร" เปิดตัวทีม MOTO2 บิดปี 2010

เคนนี นอยส์ นักบิดในสังกัดทีมของแบนเดอร์รัส


อันโตนิโอ แบนเดอร์รัส ดาราดังจากภาพยนตร์เรื่อง หน้ากากโซโร (The Mask of Zorro) เปิดตัวทีมแข่ง "แจ็ค แอนด์ โจนส์ บาย อันโตนิโอ แบนเดอร์รัส" เพื่อส่งแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรุ่น MOTO 2 ในฤดูกาลหน้า

หลังจากตกเป็นข่าวฮือฮาเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาว่า อันโตนิโอ แบนเดอร์รัส ดาราดังชาวสเปน มีความสนใจที่จะส่งทีมเข้าแข่งขันเวิลด์จีพี 2010 ในรุ่น 600 ซีซี 4 จังหวะ หรือ MOTO 2 ซึ่งเป็นรุ่นที่สหพันธ์จักรยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ็ม) นำมาแทนการแข่งขันรุ่น 250 ซีซีเดิม

ล่าสุด motogp.com รายงานว่าเทพบุตรโซโร วัย 49 ปี ได้ยืนยันส่งทีมแข่งในปี 2010 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถายใต้ชื่อทีมว่า "แจ็ค แอนด์ โจนส์ บาย อันโตนิโอ แบนเดอร์รัส" โดยมี โจน โอลิเวย์ นักบิดสแปนิช และเคนนี นอยส์ จากสหรัฐอเมริกา เป็น 2 นักแข่งประจำทีม

โดย ดานี เดบาเอีย ทีมบอสแจ็ค แอนด์ โจนส์ บาย อันโตนิโอ แบนเดอร์รัส เผยว่า "อันโตนิโอ คือแฟนตัวยงของโมโตจีพี ซึ่งนี่คือครั้งแรกที่เขาตัดสินใจลงทุนในกีฬาที่เขารัก เขายืนยันว่าจะเข้าไปดูแลทีมในทุกๆสนามของฤดูกาล 2010 เท่าที่จะเป็นไปได้ และแน่นอนเป้าหมายที่ตั้งไว้คือการคว้าชัยชนะให้ได้ในฤดูกาลหน้า"

สำหรับศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกฤดูกาล 2010 ทั้งรุ่นโมโตจีพี ,โมโตทู และ 125 ซีซี จะเปิดฉากขึ้นที่สนามโลไซอัล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ ในวันที่ 11 เมษายนปีหน้า

MGR Sprot

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

"ฟีม" บินถึงเมืองไทยยันพร้อมบิด MOTO2 ซีซันหน้า

รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก บินกลับถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังเสร็จภารกิจฤดูกาล 2009 ด้วยอันดับที่ 13 รุ่น 250 ซีซี ยันใกล้บรรลุข้อตกลงร่วมทีมสต็อป แอน โก (แซค) ซิ่งรุ่น MOTO ในปีหน้า

ฟีม ถูกสื่อรุมล้อมหลังกลับถึงเมืองไทย

เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ห้องซีไอพี 2 สนามบินสุวรรณภูมิ เจ้าฟีม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดขวัญใจชาวไทย เดินทางกลับมาถึงเมืองไทยด้วยเที่ยวบิน LH 0782 จากประเทศเยอรมัน หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันสนามสุดท้ายที่ประเทศสเปนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

โดยบรรยากาศที่สนามบินสุวรรณภูมิ นำโดยนาย อารักษ์ พรประภา กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ในฐานะต้นสังกัดทางเมืองไทย พร้อมอาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยลัยรัตนบัณฑิต (อาร์แบค) รวมถึงแฟนคลับ และสื่อมวลชนให้การต้อนรับอย่างคับคั่ง

ซึ่งหลังเดินทางถึงประเทศไทยนักบิดวัย 21 ปี กล่าวเปิดใจว่า รู้สึกพอใจที่ทำผลงานได้ดี โดยในปีหน้าจะขึ้นไปแข่งในรุ่นโมโต2 600 ซีซี 4 จังหวะ ซึ่งจะลงแข่งให้กับทีมเดิม คือ สต็อป แอนด์ โก ซึ่งก่อนกลับมาเมืองไทยได้ทดลองรถคันใหม่ที่จะใช้ลงแข่งในปีหน้าแล้ว รถดีไม่มีปัญหาและทีมงานก็ดี แต่ในเดือนธ.ค.จะต้องกลับไปที่สเปนอีกเพื่อลองรถ

ขณะที่ นายอารักษ์ พรประภา บอสใหญ่ เอพี ฮอนด้า กล่าวว่า สำหรับผลงานที่ผ่านมาในฤดูกาลที่ผ่านมาความผิดพลาดเกิดจากทั้งตัวฟีมและทีม งานด้วย ส่วนในฤดูกาลหน้า "ฟีม"ได้ลองรถใหม่แล้ว มั่นใจว่าจะไม่ทำให้แฟนๆ ชาวไทย ผิดหวัง ซึ่งได้เตรียมรถและทีมงานให้ "ฟีม" ไว้แล้วสำหรับการแข่งขันในปีหน้า โดยงบประมาณไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา ซึ่งต้องรอหารือเรื่องงบประมาณกันก่อนว่าจะมีเพิ่มเติมหรือไม่

สำหรับฟีมที่มี 81 แต้ม รั้งอันดับ 13 ในรุ่น 250 ซีซี ฤดูกาลที่ผ่านมา เตรียมขยับไปขับในรุ่น 600 ซีซี 4 จังหวะ ในฤดูกาลหน้า หลังฝ่ายจัดการแข่งขันประกาศยกเลิกรุ่น 250 ซีซี ซึ่งจะทำให้นักบิดหน้าตี๋ได้ลงแข่งเวิลด์ จีพี แบบเต็มฤดูกาลเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน

MGR Sprot

"เอฟไอเอ็ม" คลอดโผเวิลด์ จีพี 2010 กาตาร์บิดประเดิม

เวิลด์ จีพี 2009 ออกสตาร์ทที่กาตาร์

สหพันธ์กีฬาจักรยานยนต์โลก (เอฟไอเอ็ม) ประกาศ 18 สนามแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกประจำฤดูกาล 2010 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยจะประเดิมเรซแรกในรูปแบบไนท์เรซ ที่ประเทศกาตาร์ ในเดือนเมษายน และปิดฤดูกาลที่ประเทศสเปน

หลังจากที่ในช่วงเดือนสิงหาคม เอฟไอเอ็ม และฝ่ายจัดการแข่งขันเวิลด์จีพี(ดอร์นา) ได้กำหนดแผนการคร่าวๆสำหรับปฏิทินแข่งปี 2010 ล่าสุดได้มีการยืนยันอย่างเป็นทางการถึง 18 สนามแข่งขันในปีหน้าออกมาเป็นที่เรียร้อยแล้ว

โดยในฤดูกาลหน้าการแข่งขันทั้งรุ่น โมโตจีพี (800 ซีซี) ,โมโตทู (600 ซีซี) และ 125 ซีซี จะออกสตาร์ทกันในศึกกาตาร์ กรังด์ปรีซ์ ในรูปแบบไนท์เรซ วันที่ 11 เมษายน ก่อนจะไปปิดฤดูกาลที่ประเทศสเปนในศึกบาเลนเซียน จีพี ในวันที่ 7 พฤศจิกายน

พร้อมกันนี้ในศึกบริติช กรังด์ปรีซ์ ที่การแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกใช้สนามโดนิงตัน พาร์ค มายาวนาน ก็จะขยับไปแข่งขันยังซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต แทร็กเก่าแก่แห่งวงการมอเตอร์สปอร์ตแทน

ปฏิทินแข่งจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกฤดูกาล 2010

สนามที่ 1 11 เม.ย. กาตาร์ (โลไซอัล) *แข่งกลางคืน
สนามที่ 2 25 เม.ย.ญี่ปุ่น (โมเตกิ)
สนามที่ 3 2 พ.ค. สเปน (เฆเรซ)
สนามที่ 4 23 พ.ค. ฝรั่งเศส (เลอ มังส์)
สนามที่ 5 6 มิ.ย.อิตาลี (มูเจลโล)
สนามที่ 6 20 มิ.ย. อังกฤษ (ซิลเวอร์สโตน)
สนามที่ 7 26 มิ.ย. ฮอลแลนด์ (แอสเซน) *แข่งวันเสาร์
สนามที่ 8 4 ก.ค. คาตาลุนญา (คาตาลุนญา,สเปน)
สนามที่ 9 18 ก.ค. เยอรมนี (แซคเซนริง)
สนามที่ 10 25 ก.ค.สหรัฐอเมริกา (ลากูนา เซกา) * แข่งเฉพาะรุ่นโมโตจีพี
สนามที่ 11 22 ส.ค. สาธารณรัฐเช็ก (เบอร์โน)
สนามที่ 12 29 ส.ค. อินเดียนาโปลิส (อินเดียนาโปลิส,สหรัฐ)
สนามที่ 13 5 ก.ย. ซานมาริโน (มิซาโน)
สนามที่ 14 19 ก.ย. ฮังการี (บาลาตอนริง)
สนามที่ 15 10 ต.ค.มาเลเซีย (เซปัง)
สนามที่ 16 17 ต.ค.ออสเตรเลีย (ฟิลลิป ไอส์แลนด์)
สนามที่ 17 31 ต.ค. โปรตุเกส (เอสโตริล)
สนามที่ 18 7 พ.ย. บาเลนเซีย (ริคาร์โด ตอร์โม ,สเปน)


MGR Sprot

ชมภาพล่าสุด "ฟีม" เทสต์รถ MOTO2 ที่สเปน

รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกเวิลด์ จีพี อนาคตสดใสที่จะได้ลงแข่งรายการ MOTO2 ในฤดูกาลหน้า หลังล่าสุดนำรถ 600 ซีซี 4 จังหวะลงทดสอบร่วมกับทีมสต็อป แอนด์ โก (แซค) ที่สนามบาเลนเซีย ประเทศสเปน



แม้ว่าการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการของ "ฟีม" กับต้นสังกัดจะยังไม่มีขึ้น หลังจากปี 2010 ฝ่ายจัดการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกเตรียมยกเลิกรุ่น 250 ซีซี 2 จังหวะ พร้อมนำเอารถ 600 ซีซี 4 จังหวะ หรือที่เรียกว่า MOTO2 บรรจุแข่งขันแทน

อย่างไรก็ดีอนาคตของนักบิดไทยมีแนวโน้มที่จะได้บิดต่อร่วมกับทีม สต็อป แอนด์ โก (แซค) ต่อไป หลังล่าสุดได้นำรถคัดใหม่ลงทดสอบเป็นครั้งแรก ที่สนามบาเลนเซีย เซอร์กิต ประเทศสเปน ร่วมกับนักบิดชั้นนำในรุ่นโมโตจีพีอย่างคับคั่ง


โดยฟีมเป็น 1 ใน 3 นักบิดรวมกับ เคนนี นอยส์ ,และโยน โอลิเบ ที่นำรถสเปกใหม่ MOTO2 ลงทดสอบ ซึ่งเจ้าตัวทำนำรถหมายเลข 14 คันใหม่ลงจับเวลาเป็นครั้งแรก และบิดไปทั้งสิ้น 17 รอบ โดยทำเวลาดีที่สุดที่ 1 นาที 39.815 วินาที

ขณะเดียวกันในการทดสอบดังกล่าวยังมีนักบิดรุ่นโมโตจีพีนำ 800 ซีซี 4 จังหวะ นำรถลงทดสอบด้วย โดย เคซีย์ สโตเนอร์ จากทีมดูคาติ ทำเวลาดีที่สุด จากรถรุ่นโมโตจีพี 16 คัน โดยมีฮอร์เก ลอรเรนโซ และวาเลนติโน รอสซี ทำเวลาตามมาเป็นที่ 2 และ 3 ตามลำดับ

"ฟีม" รับพลาดโค้งแรก เสียดายขยับอันดับโลกไม่ขึ้น

รัฐ ภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกเวิลด์ จีพี รับเสียดายที่ไม่สามารถขยับอันดับโลกในรุ่น 250 ซีซีในเรซสุดท้ายของฤดูกาลได้ แม้ว่าจะทำผลงานยอดเยี่ยมบิดเข้าที่ 5 ในศึกบาเลนเซียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อคืนที่ผ่านมาก็ตาม

ฟีม ชักภาพร่วมกับทีมงานสต็อป แอนด์ โก (แซค)

นักแข่งไทยฮอนดา-พีทีทีแซค ที่แม้จะเก็บเพิ่มได้ 11 คะแนนในเรซสุดท้าย ทว่าไม่สามารถขยับจากอันดับ 13 ของโลกในรุ่น 250 ซีซี ขึ้นไปได้ โดยมีแต้มตามหลังโรเบอร์โต โลคาเตลลี และจูเลส คลูเซล ในอันดับ 11และ 12 เพียง 4 และ 1 แต้มเท่านั้น

โดยนักบิดวัย 21 ปีเผยหลังผ่านพ้นฤดูกาล 2009 ว่า "ผมต้องขอขอบคุณทีมงานและแฟนๆทุกคนที่ทำงานหนักมาตลอดปี ผมเสียดายเล็กๆที่อันดับโลกไม่ขยับ ซึ่งผมคิดว่าหากเราไม่โชคร้ายในหลายๆสนาม อันดับในตารางน่าจะดีกว่านี้แน่นอน"

นอกจากนี้นักบิดหน้าตี๋ยังพูดถึงการแข่งขันที่จบอันดับ 5 ในรายการส่งท้ายปีว่า "ผมออกสตาร์ทได้ไม่เลว แต่มาเสียจังหวะในโค้งแรกที่ผมอยู่ไลน์นอก ทำให้ถูกแซงไปหลายอันดับ ทว่าจากนั้นแม้ผมจะทำความเร็วได้ดี แต่ก็ดันมีปัญหาเรื่องรอบเครื่องเล็กน้อย"

"จนในช่วงท้ายผมต้องมาคับเคี่ยวกับจูเลส คลูเซลอยู่หลายรอบ กว่าที่จะแซงเขาได้ ก่อนที่จะต้องเบียดแย่งที่ 5 กับคาเรล อับบราฮัมในรอบสุดท้าย ซึ่งอันดับที่ 5 ถือเป็นผลงานที่น่าพอใจในสนามส่งท้ายของเรา" ฟีมกล่าวในท้ายที่สุด

สำหรับฟีมทำผลงานในช่วง 4 เรซสุดท้ายของปีได้ยอดเยี่ยมด้วยการจบท็อป 10 ได้ทุกสนาม จากอันดับ 6 ที่โปรตุเกส ,อันดับ 9 ที่ออสเตรเลีย ,อันดับ 6 ที่มาเลเซีย และอันดับ 5 ที่สเปน โดยเจ้าตัวเตรียมขยับไปบิดรุ่น 600 ซีซี 4 จังหวะ หรือ MOTO2 หลังฝ่ายจัดฯยกเลิกรุ่น 250 ซีซีในฤดูกาลหน้า

MGR Sprot

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

"ฟีม" จบที่ 5 "อาโอยามา" แชมป์โลกส่งท้าย 250 ซีซี



รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ทำผลงานส่งท้ายฤดูกาล 2009 รุ่น 250 ซีซี ด้วยการจบการแข่งขันในอันดับที่ 5 ของศึกบาเลนเซียน จีพี ขณะที่ ฮิโรชิ อาโอยามา ทำแต้มคว้าแชมป์โลกไปครองได้ตามเป้า แม้จะเข้าเส้นชัยเพียงอันดับ 7 เท่านั้น

ศึกมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามสุดท้ายของฤดูกาล 2009 รายการบาเลนเซียน จีพี แข่งขันกันที่สนามบาเลนเซีย เซอร์กิต ประเทศสเปน มีความยาวต่อรอบ 4.051 กิโลเมตร โดยรุ่น 250 ซีซี ดวลความเร็วกันทั้งสิ้น 27 รอบสนาม

ก่อนการแข่งขัน รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดไทยแห่งทีมไทยฮอนดา-พีทีทีแซค ที่คว้าอันดับ 4 ในการควอลิฟาย ส้มหล่นได้ขยับขึ้นมาสตาร์ทถึงกริดที่ 3 หลังจากอเล็กซ์ เดบอน เจ้าของตำแหน่งโพลโพซิชัน มีอาการบาดเจ็บไม่สามารถลงบิดได้

อย่างไรก็ดีเรซนี้ “ฟีม” ออกสตาร์ทได้ไม่ดีนัก หลุดลงไปถึงอันดับ 8 เมื่อผ่านโค้งแรก และถึงแม้จะขยับขึ้นมาในอับดับ 5 ได้ในรอบที่ 2 แต่ก็ไม่สามารถทานความเร็วของอัลบาโร เบาติสตา และไมค์ ดิ เมกลิโอ ได้จนต้องเกาะติดอันดับที่ 8 หลังผ่าน 10 รอบสนาม

จากนั้นในช่วงท้ายหลังจากที่กลุ่มนำอย่าง ดิ เมกลิโอ และ มาร์โก ซิมอนเชลลี ต้องออกจากการแข่งขัน นักบิดไทยพยายามเต็มสูบที่จะทำความเร็วเพื่อขยับอันดับ ซึ่งก็สามารถแซงจูเลส คูลเซล ได้แบบหมดจดในรอบที่ 22 ก่อนจะควบเข้าป้ายเป็นอันดับที่ 5 หยิบ 11 แต้มส่งท้ายฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยม


ขณะที่ ฮิโรชิ อาโอยามา นักบิดทีมสก็อต-ฮอนดา ที่จ่อแชมป์โลกในรุ่นนี้ เกือบจะพลาดล้มในรอบที่ 10 ขณะที่กำลังขับเคี่ยวแย่งตำแหน่งผู้นำ ทว่าประคองรถที่หลุดลงไปในบ่อทรายได้อย่างยอดเยี่ยม และสามารถนำเข้ารถเส้นชัยอันดับที่ 7 ได้สำเร็จ พร้อมทำแต้มคว้าแชมป์โลกไปครอง

ส่วนผู้ชนะสนามนี้เป็นของ เฮคเตอร์ บาร์เบรา นักบิดเจ้าถิ่นจากทีม อพริเลีย ทำเวลารวม 44 นาที 10.601 วินาที โดยมี อัลบาโร เบาติสตา และรัฟฟาเอล เด โรซา นักบิดอพริเลียและฮอนดา ตามขึ้นโพเดียมอันดับ 2 และ 3 ได้สำเร็จ

ขณะที่ผลการแข่งขันรุ่นโมโตจีพี (800 ซีซี) ดานี เปโดรซา นักบิดเจ้าถิ่นจากทีมเรปโซล-ฮอนดา อาศัยความได้เปรียบจากการที่เคซีย์ สโตเนอร์ เจ้าของตำแหน่งโพลฯพลาดล้มในช่วงวอร์มอัพ ออกตัวจากกริดที่ 2 นำม้วนเดียวจบคว้าแชมป์ไปครอง พร้อมทำแต้มแซงสโตเนอร์ รั้งอันดับ 3 ในตารางรุ่นโมโตจีพี โดยมีวาเลนติโน รอสซี แชมป์โลกปีนี้ และฮอร์เก ลอเรนโซ ตามเข้าป้ายเป็นที่ 2 และ 3 ตามลำดับ

ผลการแข่งขัน 8 อันดับแรก บาเลนเซียน กรังด์ปรีซ์ รุ่น 250 ซีซี
1. เฮคตอร์ บาร์เบรา (สเปน / อพริเลีย) 44 นาที 10.601 วินาที
2. อัลบาโร เบาติสตา (สเปน / อพริเลีย) +3.663
3. รัฟฟาเอล เด โรซา (อิตาลี / ฮอนดา ) +5.665
4. โธมัส ลูธี (สวิตเซอร์แลนด์ /อพริเลีย) +5.680
5. รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ (ไทยฮอนดา-พีทีทีแซค) +13.601
6. คาเรล อับบราฮัม (เช็ก / อพริเลีย) +13.697
7.ฮิโรชิ อาโอยามา (ญี่ปุ่น / ฮอนดา) +27.483
8. อเล็กซ์ บัลโดดินี (อพริเลีย) +35.097

สรุปคะแนนรุ่น 250 ซีซี
1. ฮิโรชิ อาโอยามา (ญี่ปุ่น / ฮอนด้า) 261 คะแนน * แชมป์โลก
2. เฮคตอร์ บาร์เบรา (สเปน / อพริเลีย) 239 คะแนน
3. มาร์โก ซิมอนเชลลี (อิตาลี / จิเลรา) 231 คะแนน
*13. รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ (ไทย / ไทยฮอนดา-พีทีทีแซค) 81 คะแนน


MGR Sprot

"ฟีม" สตาร์ทกริด 4 ศึกบาเลนเซียจีพี

“เจ้าฟีม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์

“เจ้าฟีม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดชาวไทยแห่งทีมไทยฮอนดา-พีทีทีแซค อาจสมหวังได้ขึ้นโพเดียมในสนามสุดท้าย ศึกบาเลนเซียน กรังด์ปรีซ์ หลังรอบควอลิฟายทำเวลาเข้ามาเป็นอันดับที่ 4

ศึกมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามสุดท้ายของปี 2009 รายการบาเลนเซียน กรังด์ปรีซ์ แข่งขันกันที่บาเลนเซีย เซอร์กิต ประเทศสเปน เมื่อวันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายนเป็นการลงสนามในรอบควอลิฟาย

โดยรุ่น 250 ซีซี รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ แห่งทีมไทยฮอนดา-พีทีทีแซคไม่ทำให้คอนักซิ่งชาวไทยผิดหวัง ทำเวลาเข้ามาเป็นอันดับ 4 ตามหลัง อเล็กซ์ เดบอน จากทีมอพริเลีย ซึ่งคว้าตำแหน่งโพลโพซิชัน 0.447 วินาที ขณะที่ ฮิโรชิ อาโอยามา ยอดนักบิดจากทีมสกอต-ฮอนดา ซึ่งจะคว้าแชมป์โลกทันทีจบรายการนี้ด้วยอันดับ 11 ได้ออกสตาร์ทกริดที่ 5

ผลรอบควอลิฟาย รุ่น 250 ซีซี บาเลนเซีย กรังด์ปรีซ์
1. อเล็กซ์ เดบอน (สเปน / อพริเลีย) เวลา 1 นาที 36.116 วินาที
2. มาร์โก ซิมอนเชลลี (อิตาลี / จิเลรา) ตามหลัง 0.334 นาที
3. เฮคเตอร์ บาร์เบรา (สเปน / อพริเลีย) ตามหลัง 0.534 วินาที
4. รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ (ไทยฮอนดา-พีทีทีแซค) ตามหลัง 0.447 วินาที
5. ฮิโรชิ อาโอยามา (ญี่ปุ่น / ฮอนดา) ตามหลัง 0.540 วินาที

สำหรับรุ่นโมโต จีพี เคซีย์ สโตเนอร์ อดีตแชมป์โลกปี 2007 แห่งทีมดูคาติ คว้าตำแหน่งโพลโพซิชันด้วยเวลา 1 นาที 32:256 วินาที ขณะที่ ดานี เปโดรซา แห่งทีมฮอนดา เข้ามาเป็นที่ 2 เวลาตามหลัง 0.263 วินาที และอันดับ 3 ของ ฮอร์เก ลอเรนโซ เพื่อนร่วมทีมชาวสเปน เวลาตามหลัง 0.281 วินาที ส่วนแชมป์โลกปีนี้ วาเลนติโน รอสซี ซูเปอร์สตาร์ชาวอิตาเลียนของทีมยามาฮา ได้ที่ 4 เวลาตามหลัง 0.666 วินาที


MGR Sprot

วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

หมอสั่ง "ฟีม" กายภาพบำบัดก่อนบิดเรซสุดท้าย

ฟีม อาการปวดหลังกำเริบ


รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ จำต้องทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ต่อจากนี้ เพื่อบรรเทาอาการปวดหลัง ก่อนลงบิดสนามสุดท้ายของฤดูกาล 2009 ที่ประเทศสเปน ในวันที่ 8 พ.ย.นี้

หลังจากที่ "ฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดไทยฮอนดา-พีทีทีแซค นำรถเข้าเส้นชัยอันดับที่ 6 ในศึกมาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวเผยหลังจบการแข่งขันว่าต้องฝืนอาการบาดเจ็บที่แผ่นหลังที่กำเริบ ขึ้นมาอีกครั้ง ในการบิด 22 รอบสนามเซปัง

ซึ่งทันทีที่เจ้าฟีม เดินทางกลับไปยังบ้านพักที่ประเทศสเปน เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมงานสต็อป แอนด์ โก (แซค) ได้พานักบิดชาวไทยไปพบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง เพื่อตรวจเช็คถึงอาการปวดหลังที่กำเริบขึ้นอีกครั้ง

โดยนักบิดหน้าตี๋เผยผ่าน MGR SPORT ในช่วงที่ว่างจากโปรแกรมแข่งว่า "อาการปวดหลังทำให้ผมกังวลใจพอสมควร โดยเฉพาะเวลาก้ม มันส่งผลมากตอนแข่ง ซึ่งหลังเดินทางกลับถึงสเปนทีมงานก็พาไปหาหมอ และหมอกำชับให้ทำกายภาพบำบัดทุกวัน ไปจนถึงวันแข่งขัน"

อย่างไรก็ดีนักบิดวัย 21 ปี ยังให้คำมั่นว่าจะกลับมาฟิตอีกครั้งรวมถึงตั้งเป้าทำผลงานเต็มฝีมือ ในการแข่งขันเวิลด์ จีพี รุ่น 250 ซีซี สนามสุดท้ายของปี 2009 ในรายการบาเลนเซียน กรังด์ปรีซ์ ที่ประเทศสเปน วันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย.นี้

MGR Sprot

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552

"ลอเรนโซ" ยินดี "รอสซี" ลั่นปีหน้าขอเฮบ้าง

ฮอร์เก ลอเรนโซ นักบิดดาวโรจน์แห่งทีมเฟียต-ยามาฮา ในศึกโมโตจีพี ออกมาแสดงความยินดีไปยัง วาเลนติโน รอสซี เพื่อนร่วมทีมที่ทำแต้มทิ้งตัวเองขาดลอยพร้อมคว้าแชมป์โลกไปครอง อย่างไรก็ดีเจ้าตัวตั้งเป้าจะเอาชนะรอสซี ให้ได้ในฤดูกาลหน้า

ลอเรนโซ (ขวา) จับมือยินดีกับแชมป์โลก 9 สมัย

นักบิดสแปนิชวัย 22 ปี ต้องพลาดโอกาสเป็นแชมป์โลกรุ่นโมโตจีพี (800 ซีซี) อย่างเป็นทางการหลังถูก วาเลนติโน รอสซี เพื่อนร่วมทีมทำแต้มทิ้งห่างไปถึง 41 คะแนน ขณะที่เหลือเพียง 25 คะแนนให้ลุ้นในเรซสุดท้ายเท่านั้น

ซึ่งลอเรนโซที่ยังต้องเก็บให้ได้ 1 แต้มในเรซสุดท้าย เพื่อการันตีตำแหน่งรองแชมป์โลก ออกมาแสดงความยินดีไปยังนักซิ่งรุ่นพี่ว่า "ผมต้องขอแสดงความยินดีไปยัง วาเลนติโน และทีมงานทุกคน สำหรับผมนี่คือฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งผมไม่ได้คาดหวังเลยที่จะขยับมาลุ้นแชมป์โลกกับเขาได้ใกล้เคียงขนาดนี้"

นอกจากนี้อดีตแชมป์โลก 250 ซีซี 2 สมัย ยังตั้งเป้าด้วยว่าประสบการณ์อันแข็งแกร่งบนเวทีโมโตจีพี จะทำให้ตนเองกลับมาลุ้นแชมป์เต็มตัวอีกครั้งในปีหน้า "ปีนี้ผมแพ้เขา(รอสซี) แต่บางทีผมคิดว่าฤดูกาลหน้ามันอาจถึงเวลาของผมก็เป็นได้"

สำหรับลอเรนโซยังมีภารกิจรักษาอันดับ 2 ของรุ่นโมโตจีพี ในการแข่งขันสนามสุดท้ายที่สเปน หลังถูกเคซีย์ สโตเนอร์ ทำแต้มไล่มา 25 คะแนน ซึ่งนักบิดวัย 22 ปี จำเป็นต้องเก็บ 1 คะแนนในการแข่งขันวันที่ 8 พ.ย.นี้ เพื่อตำแหน่งรองแชมป์โลกฤดูกาลนี้


MGR Sprot

วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2552

"ฟีม" ตั้งเป้าขึ้นโพเดียมปิดท้ายฤดูกาล


รัฐภาคย์ (กลาง) พบปะแฟนหลังจบเกมโดยมี อารักษ์ พรประภา กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ขนาบข้าง



"ฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดทีมไทยฮอนดา-พีทีทีแซค เปิดเผยหลังคว้าอันดับ 6 ศึกมาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า มีอาการบาดเจ็บหลังจนเร่งเครื่องไม่ขึ้นทำให้พลาดจบ 5 อันดับแรกตามเป้าที่วางไว้ แต่จะขอลุ้นขึ้นโพเดียมเป็นโอกาสสุดท้ายของฤดูกาลนี้ในรายการบาเลนเซีย กรังด์ปรีซ์ ต้นเดือนหน้า

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม ในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามรองสุดท้ายของฤดูกาล 2009 รายการมาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ แข่งขันกันที่เซปัง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย

ปรากฏว่า รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักซิ่งหนุ่มไทย ซึ่งตั้งเป้าจะติด 1 ใน 5 อันดับแรก แต่พลาดไปเพียงอันดับเดียวเมื่อทำเวลาเข้ามา 42 นาที 75.256 วินาที ช้ากว่าอันดับ 5 คือ เฮคตอร์ เฟาเบล เพื่อนร่วมทีมชาวสเปน 0.390 วินาที โดยหลังจบการแข่งขัน ฟีมเปิดเผยว่าตนพยายามเต็มที่ แต่เนื่องจากอาการเจ็บหลังกำเริบจากการล้มในสนามก่อนๆทำให้บิดไม่ขึ้นจนผล งานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

อย่างไรก็ตาม นักบิดจากชลบุรีหวังจะแก้ตัวใหม่ในสนามสุดท้ายของฤดูกาลคือศึกบาเลนเซีย กรังด์ปรีซ์ ประเทศสเปน ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ โดยเปิดเผยว่าจะพยายามรักษาอาการเจ็บหลังให้หายด้วยการทำกายภาพบำบัดและตั้ง เป้าขึ้นแท่นโพเดียมบนแผ่นดินกระทิงดุให้ได้

จากผลงานที่สนามเซปัง อินเตอร์เนชันแนล ส่งผลให้ รัฐภาคย์ มีคะแนนสะสมเพิ่มเป็น 70 คะแนน รั้งอันดับที่ 13 ซึ่งหากเทียบกับปี 2008 ซึ่งจบฤดูกาลด้วยการมี 73 คะแนน รั้งอันดับ 13 ก็ทำให้นักบิดวัย 21 ปีพอใจผลงานตนเองในฤดูกาลนี้ โดยชี้ว่าปัจจัยสำคัญคือการที่รถมีเครื่องยนต์เร็วกว่าเดิมและทีมงานช่วยกัน อย่างเต็มที่ แต่รู้สึกเสียดายที่พลาดล้มลงบางสนาม มิเช่นนั้นน่าจะมีคะแนนมากกว่านี้


MGR Sprot

ชมภาพประทับใจ "ฟีม" ขอบคุณแฟนชาวไทยที่เซปัง

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับ ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามรองสุดท้าย รายการมาเลเซียน จีพี ซึ่งนอกจากวาเลนติโน รอสซีจะได้แชมป์โลกรุ่นโมโตจีพีไปครองแล้ว กองเชียร์ชาวไทยที่เข้าไปชมบริเวณแกรนด์สแตนกว่า 200 คน ยังได้เฮไปกับผลงานอันยอดเยี่ยมของ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์

กองเชียร์กว่า 200 คน จากประเทศไทย

โดยเจ้า “เจ้าฟีม” ไม่ทำให้ทัพนักข่าวจากเมืองไทยรวมถึงแฟนคลับที่ยกพลด้วยเครื่องบินเช่าเหมา ลำไปยังมาเลเซียโดยบริษัทเอพี ฮอนด้า ต้องผิดหวัง หลังควบรถ RS250RW เข้าเส้นชัยเป็นที่ 6 พร้อมขยับขึ้นมามี 70 แต้ม รั้งที่13 ในคะแนนรวมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ฟีม บดกับเบาติสตส ในช่วงต้น

ซึ่งหลังจากการแข่งขันฟีมเปิดเผยว่า วันนี้มีอาการเจ็บหลังหลังจากผ่านไปหลายรอบ หากว่าไม่มีอาการเจ็บหลังรับรองมีโอกาสขึ้นยืนโพเดียมแน่นอน ส่วนเรื่องรถนั้นไม่มีปัญหาอะไร ยอมรับว่าเสียดายมาก มีโอกาสขยับขึ้นไปถึงที่3แล้ว แต่ก็อย่างที่บอก อาการเจ็บหลังทำให้ไม่สามารถขับขี่ได้ถนัด

สุดท้ายจบที่ 6 แม้เจ็บหลัง

พร้อมกันนี้นักบิดขวัญใจชาวไทยยังเรียกเสียงเฮจากกองเชียร์ลั่นบริเวณแก รนด์สแตน หลังเดินออกมาร่วมกับทีมงานสต็อป แอนด์ โก (แซค) พร้อมชูป้ายขอบคุณแฟนๆชาวไทยที่แห่ไปให้กำลังใจกว่า 200 คน ซึ่ง MGR Sport ไม่พลาดที่จะนำภาพประทับใจดังกล่าวมาฝากกัน

ฟีม ชูป้ายขอบคุณกองเชียร์ชาวไทย


MGR Sport

"รอสซี" รับสุดหืดกว่าจะซิวแชมป์โลกสมัย 9

วาเลนติโน รอสซี แชมป์โลกโมโตจีพีคนล่าสุดจากทีมเฟียต-ยามาฮา ยอมรับการคว้าแชมป์โลกในฤดูกาลนี้เป็นสิ่งที่ยากลำบากกว่าทุกๆครั้ง พร้อมยกเครดิตให้ฮอร์เก ลอเรนโซ เพื่อนร่วมทีมว่าเป็นคู่แข่งสุดหินประจำฤดูกาล 2009



"เดอะด็อกเตอร์" เพิ่งจะคว้าแชมป์โลกเวิลด์ จีพีสมัยที่ 9 ของตัวเองได้สำเร็จ หลังจบการแข่งขันอันดับที่ 3 ในศึกมาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ที่สนามเซปัง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทำแต้มทิ้งห่างฮอร์เก ลอเรนโซ ไปขาดลอย แม้ว่าจะเหลือการแข่งขันอีก 1 เรซก็ตาม




ซึ่งยอดนักบิดวัย 30 ปี เผยความรู้สึกหลังคว้าแชมป์โลกอีกครั้งว่า"มันเป็นชัยชนะที่ได้มาจากฤดูกาล อันยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลในเรซนี้ (ตกไปที่ 8 ตั้งแต่โค้งแรก) มันบ่งบอกถึงความสาหัสได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ผมยังต้องเจอคู่แข่งที่ฝีมือสุดยอด อย่างเฉพาะฮอร์เก (ลอเรนโซ) เพื่อนร่วมทีมของผมเอง กดดันอยู่ตลอดฤดูกาล"



"นี่คือความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมจริงๆกับแชมป์โลกสมัยที่ 9 และเป็นครั้งที่ 7 ในรุ่นใหญ่ (500 ซีซี 1 ครั้ง ,โมโตจีพี 6 ครั้ง) ผมต้องขอขอบคุณทีมงานยามาฮาทุกคน รวมถึงแฟนๆของผมในทุกๆสนามที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้" รอสซีร่ายยาว



สำหรับรอสซี เริ่มคว้าแชมป์โลกตั้งแต่ปี 1997 ในรุ่น 125 ซีซี จากนั้นขยับมาคว้าแชมป์รุ่น 250 ซีซีได้ในปี 1999 ก่อนจะขึ้นมาเป็นจ้าวความเร็วในรุ่นใหญ่ ตั้งแต่คว้าแชมป์ 500 ซีซี ในปี 2001 รวมถึงแชมป์โมโตจีพี (800 ซีซี) อีก 6 ครั้งในปี 2002, 2003, 2004, 2005, 2008 และ 2009




MGR Sport

"เดอะด็อกเตอร์" บิดเข้าที่ 3 ซิวแชมป์โลกโมโตจีพี

รอสซี แชมป์โลกโมโตจีพี 2009
วาเลนเลนติโน รอสซี ยอดนักบิดทีมเฟียต-ยามาฮา แห่งศึกโมโตจีพี ประกาศศักดิ์ดาคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 9 มาครองได้สำเร็จ หลังบิดรถคู่ใจหมายเลข 46 เข้าเส้นชัยอันดับที่ 3 เพียงพอต่อการทำแต้มทิ้งฮอร์เก ลอเรนโซ เพื่อนร่วมทีม ในศึกมาเลเซียน จีพี เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา

ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามรองสุดท้าย รายการมาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ แข่งขันกันที่เซปัง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย มีความยาวต่อรอบ 5.543 กิโลเมตร โดยรุ่นโมโตจีพี ดวลความเร็วกัน 21 รอบสนาม

ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้นมีฝนตกลงมาอย่างหนักที่สนามเซปัง ทำให้ต้องมีการเลื่อนเวลาออกสตาร์ทไปครึ่งชั่วโมง ซึ่งทำให้นักบิดทุกคนต้องมีการปรับเปลี่ยนใช้รถสำรอง รวมถึงต้องใช้ยางสำหรับทางเปียกโดยเฉพาะ โดย "เดอะด็อกเตอร์" ได้ออกสตาร์ทตำแหน่งโพลโพซิชัน

ซึ่งแม้ว่ายอดนักบิดวัย 30 ปี จะออกสตาร์ทตกไปถึงที่ 8 เมื่อผ่านโค้งแรก แต่ก็โชว์ความสามารถไล่อันดับจนจบโพเดียมได้สำเร็จ หลังควบรถยามาฮาคู่ใจเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 3 ทำเวลาตามหลังเคซีย์ สโตเนอร์ แชมป์สนามนี้จากทีมดูคาติอยู่ 19.385 วินาที

ส่งผลให้ รอสซี ทำแต้มทิ้งห่าง ฮอร์เก ลอเรนโซ เพื่อนร่วมทีมออกไปถึง 41 แต้ม ขณะที่เหลือแต้มให้ลุ้นเพียง 25 คะแนนเท่านั้น คว้าแชมป์โลกโมโตจีพี สมัยที่ 6 ไปครองเป็นที่แน่นอนแล้ว รวมถึงเป็นแชมป์มอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกครั้งที่ 9 ของตัวเองอีกด้วย

ผลการแข่งขัน 3 อันดับแรก มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ รุ่นโมโตจีพี
1 เคซีย์ สโตเนอร์ (ออสเตรเลีย / ดูคาติ) 47 นาที 24.834 วินาที
2 ดานี เปโดรซา (สเปน / เรปโซล-ฮอนดา) +14.666
3 วาเลนติโน รอสซี (อิตาลี / เฟียต-ยามาฮา) + 19.385

คะแนนสะสม 4 อันดับแรก รุ่นโมโตจีพี
1 วาเลนติโน รอสซี (อิตาลี / เฟียต-ยามาฮา) 286
2 ฮอร์เก ลอเรนโซ (สเปน / เฟียต-ยามาฮา) 245
3 เคซีย์ สโตเนอร์ (ออสเตรเลีย / ดูคาติ) 220
4 ดานี เปโดรซา (สเปน / เรปโซล-ฮอนดา) 209


MGR Sport

"ฟีม" เจ็บหลังวืดที่ 5 หวิว "มาเลเซียน จีพี"

รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ บิดทำผลงานประทับใจคนไทยทั้งประเทศ หลังควบรถฮอนดา เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 6 พร้อมเก็บเพิ่ม 10 คะแนนในการแข่งขันรุ่น 250 ซีซี รายการมาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ ที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา


ฟีม บิดเข้าที่ 6 ที่เซปัง


ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามรองสุดท้ายของฤดูกาล 2009 รายการมาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ แข่งขันกันที่เซปัง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย มีความยาวต่อรอบ 5.543 กิโลเมตร โดยรุ่น 250 ซีซีดวลความเร็วกันทั้งสิ้น 22 รอบสนาม

ผลปรากฎว่า "ฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดทีมไทยฮอนดา-พีทีทีแซค ที่ควอฟายได้กริดที่ 6 ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการขึ้นไปถึงอันดับ 3 ในรอบที่ 2 ทว่าจากนั้นไม่สามารด้านทานความเร็วของนักบิดหัวแถวอย่าง ฮิโรชิ อาโอยามา และ มาร์โก ซิมอนเชลลี ได้

จากนั้นในช่วงท้ายฟีมที่ขับเคี่ยวแย่งที่ 5 กับ เฮคตอร์ เฟาเบล แม้จะพลาดถูกแซงในรอบสุดท้าย แต่ก็ยังก็เร่งเครื่องเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 6 ได้สำเร็จ ท่ามกลางความยินดีจากกองเชียร์ชาวไทยที่แห่มาให้กำลังใจกว่า 200 คนในสนามเซปัง

ซึ่งหลังจบการแข่งขันมีการเปิดเผยจากคุณอารักษ์ พรประภา กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนดา ที่นำทีมไปเชียร์ฟีมที่มาเลเซียว่า อาการเจ็บหลังของฟีมทำให้ไม่สามารถต้านทานคู่แข่งในรอบสุดท้ายได้ แต่ก็ยังพอใจที่จบได้ถึงอันดับที่ 6

ขณะเดียวกันนักบิดหน้าตี๋จากประเทศไทยเก็บเพิ่มอีก 10 คะแนน ขยับอันดับในตารางสะสมรุ่น 250 ซีซี แซง ลูคัส พีเซ็ค นักบิดเช็กจากทีมอพริเลีย ขึ้นไปมี 70 คะแนนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนผู้ชนะสนามนี้ตกเป็นของ ฮิโรชิ อาโอยามา ผู้นำคะแนนสะสมจากทีมสกอต-ฮอนดา ที่ขับเคี่ยวกับ มาร์โก ซิมอนเชลลี แชมป์โลกปี 2008 จากทีมจิเลรา อย่างสุดมัน ก่อนที่นักบิดญี่ปุ่น จะเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก ด้วยเวลารวม 42 นาที 55.689 วินาที

ขณะที่มาร์โก ซิมอนเชลลี มาพลาดถูก เฮคตอร์ บาร์เบรา นักบิดสแปนิช แซงเข้าเส้นชัยในโค้งสุดท้ายแบบฉิวเฉียด ได้ขึ้นโพเดียมดับดับ 3 เท่านั้น ส่งผลให้สถานการณ์ในตารางลุ้นแชมป์ แชมป์โลก 2008 ถูกอาโอยามา ทิ้งห่างออกไปเป็น 21 คะแนน

สำหรับศึกมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามสุดท้ายของฤดูกาล 2009 จะไปปิดฉากกันที่สนามบาเลนเซีย เซอร์กิต ประเทศสเปน ในรายการบาเลนเซีย กรังด์ปรีซ์ ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้

ผลการแข่งขัน 10 อันดับแรก มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ รุ่น 250 ซีซี
1. ฮิโรชิ อาโอยามา (ฮอนดา) 42 นาที 55.689 วินาที
2. เฮคตอร์ บาร์เบรา (อพริเลีย) +6.937 *บาร์เบราได้ที่ 2 เพราะมีเวลาต่อรอบดีกว่า
3. มาร์โก ซิมอนเชลลี (จิเลรา) +6.937
4. โธมัส ลูธี (อพริเลีย) +17.871
5. เฮคตอร์ เฟาเบล (ฮอนดา) + 19.177
6. รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ (ไทยฮอนดา-พีทีทีแซค) +19.567
7.อเล็กซ์ เดอบอง (อพริเลีย) +20.255
8. ลูคัส พีเซ็ค (อพริเลีย) +34.561
9. อเล็กซ์ บัลโดดินี (อพริเลีย) +50.937
10. โชยา อาโอยามา (ฮอนดา) +1'04.186

สรุปคะแนน 3 อันดับแรก รุ่น 250 ซีซี
1. ฮิโรชิ อาโอยามา (ญี่ปุ่น / ฮอนด้า) 252 คะแนน
2. มาร์โก ซิมอนเชลลี (อิตาลี / จิเลรา) 231 คะแนน
3. เฮคตอร์ บาร์เบรา (สเปน / อพริเลีย) 214 คะแนน
*13. รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ (ไทย / ไทยฮอนดา-พีทีทีแซค) 70 คะแนน

MGR Sport

"เสี่ยอารักษ์" มั่นใจ "ฟีม" มีลุ้นจบท็อปไฟว์เซปัง


เสี่ยอารักษ์ (ซ้าย)

นายอารักษ์ พรประภา กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนดา จำกัด มั่นใจ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ยอดนักบิดขวัญใจชาวไทย แห่งทีมไทยฮอนด้า-พีทีทีแซค มีโอกาสคว้า 1 ใน 5 อันดับแรกของศึกมาเลเซีย กรังด์ปรีซ์ วันอาทิตย์นี้ แม้รอบควอลิฟายเข้ามาเป็นที่ 6 แต่เวลาสูสีห่างจากบรรดาผู้นำไม่กี่วินาที นอกจากนี้ยังกล่าวถึงผลงานโดยภาพรวมของ "ฟีม" ว่าดีขึ้นกว่าปีก่อน แต่อาจต้องปรับปรุงอีกเล็กน้อยในเรื่องการออกสตาร์ทที่ระมัดระวังเกิน

ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามรองสุดท้ายของฤดูกาล 2009 รายการมาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ แข่งขันกันที่เซปัง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย เมื่่อวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมาเป็นรอบควอลิฟาย

ปรากฎว่า ตำแหน่งโพลโพซิชั่นป็นของ ฮิโรชิ อาโอยามา นักขับญี่ปุ่นจากฮอนดา ที่ทำเวลาเข้ามา 2 นาที 06.767 วินาที ขณะที่อันดับ 2 และ 3 เป็นของ จูลส์ คลูเซล และ ไมค์ ดิ เมกลิโอ สองนักบิดชาวฝรั่งเศส จากทีมอพรีเลีย ด้วยเวลาไล่หลัง 0.332 และ 0.465 วินาทีตามลำดับ ส่วนหนึ่งเดียวของไทย รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ เข้ามาเป็นที่ 6 ด้วยเวลาตามหลังผู้นำ 0.895 วินาที

ด้าน นายอารักษ์ พรประภา ซึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ รัฐภาคย์ บนเวทีโลก เปิดเผยถึงการลงชิงชัยในวันอาทิตย์นี้ว่า เจ้าฟีม มีโอกาสติด 5 อันดับแรก เนื่องจากเวลาในรอบควอลิฟายสูสีห่างจากผู้ที่เหนือกว่าเพียงไม่กี่วินาที แต่ต้องภาวนาอย่าให้อากาศร้อนเกินไปเพราะอาจทำให้เครื่องยนต์อืด

นอกจากนี้ กรรมการบริหารบริษัท เอ.พี.ฮอนดา จำกัด ประเมินถึงผลงานของนักบิดจากชลบุรีว่าดีขึ้นกว่าฤดูกาลที่แล้ว เนื่องจากมีการเข้าเส้นชัยด้วยเลขตัวเดียวและหากไม่เกิดอุบัติเหตุล้มในบาง สนามก็น่าจะเก็บคะแนนได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งตอนนี้ ฟีม มีคะแนนสะสม 60 คะแนน รั้งที่ 14 ของตาราง ส่วนฤดูกาลก่อนมี 73 คะแนน จบดัวยอันดับที่ 13

เมื่อถามถึงจุดอ่อนของ รัฐภาคย์ ในฤดูกาลนี้ นายอารักษ์ตอบว่ายังอยู่ที่การออกสตาร์ท แม้ปีนี้จะทำได้ดีขึ้น แต่ระมัดระวังเกินไปจนกลายเป็นการออกตัวช้า อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเมื่อได้สั่งสมประสบการณ์มากขึ้นก็จะทำได้ดีต่อไป

ขณะที่ฤดูกาล 2010 ศึกจักรยานยนต์รุ่น 250 ซีซี 2 จังหวะจะถูกแทนที่ด้วยรุ่น 600 ซีซี 4 จังหวะ พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นประเภท MOTO2 โดย "เสี่ยอารักษ์" ยืนยันว่า ฟีม จะเปลี่ยนมาลงชิงชัยในรุ่นนี้ภายใต้สังกัดฮอนดาเหมือนเดิม โดยตอนนี้ทุกอย่างใกล้ลงตัวเหลือแต่เพียงการเจรจากับบรรดาสปอนเซอร์อยู่

MGR Sport

‘ฟีม’ เจ๋งสตาร์ทกริด 6 ที่เซปัง ‘รอสซี’ จ่อแชมป์โลก

“เจ้าฟีม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ฟอร์มเจ๋งได้สตาร์ทกริดที่ 6 ในศึกมาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ รุ่น 250 ซีซี ที่เซปัง ขณะที่ “เดอะ ด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี เขยิบใกล้แชมป์โลก โมโต จีพี สมัยที่ 9 เข้าทุกขณะหลังคว้าตำแหน่งโพลโพซิชัน มาครอง


"ฟีม" บิดได้เจ๋งในรอบควอลิฟาย



"รอสซี่" จ่อแชมป์โลกสมัยที่ 9



ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามรองสุดท้ายของฤดูกาล 2009 รายการมาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ แข่งขันกันที่เซปัง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ประจำวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2552 เป็นการแข่งขันในรอบควอลิฟาย

รุ่น 250 ซีซี รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ แห่งทีมไทยฮอนดา-พีทีทีแซคไม่ทำให้คอนักซิ่งชาวไทยผิดหวัง บิดเข้าอันดับ 6 ตามหลัง ฮิโรชิ อาโอยามา ซึ่งคว้าตำแหน่งโพลโพซิชันไปครอง 0.895 วินาที โดยยอดนักบิดชาวญี่ปุ่นของทีมฮอนดา ได้สตาร์ทคันแรกเป็นหนที่ 2 ของฤดูกาลนี้

โดยฟีมเผยถึงเป้าหมายในวันแข่งขันด้วยการออกตัวจากกริดที่ 6 ว่า "การควอลิฟายได้อันดับ 6 ถือเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม เพราะเราจะได้ออกตัวจากแถวที่ 2 อีกครั้ง เป้าหมายของผมคือจะต้องออกสตาร์ทเกาะกลุ่มหัวแถวไว้ให้ได้ ซึ่งจากเวลาต่อรอบที่ทำได้ตั้งแต่วันซ้อม จะทำแฟนๆชาวไทยที่เข้ามาเชียร์เป็นจำนวนมากได้เฮแน่นอน"

ส่วน มาร์โก ซิมอนเชลลี สตาร์ชาวอิตาเลียนของทีมจิเลรา มีโอกาสโดน อาโอยามา ฉีกหนีเกิน 12 แต้มเสียแล้ว หลังจากบิดในรอบควอลิฟายเข้ามาเพียงอันดับ 8 โดย จูเลส คลูเซล แห่งทีมอพริเลีย ได้สตาร์ทกริด 2 วันอาทิตย์นี้ หลังบิดทำเวลาตามหลัง อาโอยามา แค่ 0.332 วินาที

ผลรอบควอลิฟาย รุ่น 250 ซีซี มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์
1. ฮิโรชิ อาโอยามา (ฮอนดา) เวลา 2 นาที 6.767 วินาที
2. จูเลส คลูเซล (อพริเลีย) ตามหลัง 0.332 วินาที
3. ไมค์ ดิ เมกลิโอ (อพริเลีย) ตามหลัง 0.465 วินาที
4. เฮคเตอร์ บาร์เบรา (อพริเลีย) ตามหลัง 0.534 วินาที
5. อัลบาโร เบาติสตา (อพริเลีย) ตามหลัง 0.604 วินาที
6. รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ (ไทยฮอนดา-พีทีทีแซค) ตามหลัง 0.895 วินาที
7. เฮคเตอร์ เฟาเบล (ฮอนดา) ตามหลัง 1.061 นาที
8. มาร์โก ซิมอนเชลลี (จิเลรา) ตามหลัง 1.149 นาที
9. โธมัส ลูธี (อพริเลีย) ตามหลัง 1.182 นาที
10. ราฟฟาเอเล เด รอสซา (ฮอนดา) ตามหลัง 1.186 วินาที

สำหรับในรุ่นโมโต จีพี วาเลนติโน รอสซี ซูเปอร์สตาร์ชาวอิตาเลียนของทีมยามาฮา มีโอกาสฉลองตำแหน่งแชมป์โลกสมัยที่ 9 หลังบิดซิวตำแหน่งโพลโพซิชัน มาครอง ด้วยเวลา 2.00.518 นาที ขณะที่ ฮอร์เก ลอเรนโซ เพื่อนร่วมทีมชาวสเปนเข้าที่ 2 เวลา 2.01.087 นาที และ ดาเนียล เปโดรซา แห่งทีมฮอนดา ได้ที่ 3 ในรอบคัดเลือก เวลา 2.01.254 นาที


MGR Sport