"เดอะด็อกเตอร์" ยังกั๊กหลังมีข่าวลือซบ "ดูคาติ"

"เดอะด็อกเตอร์" วาเลนติโน รอสซี ยอดนักบิดแชมป์โลก 8 สมัยสังกัดทีมเฟียต-ยามาฮ่า ยังไม่ยืนยันอนาคตของตัวเองในปี 2011 หลังมีข่าวลือล่าสุดว่าดูคาติ ทีมแข่งดังแห่งอิตาลี สนใจดึงตัวไปร่วมทีมหลังจบฤดูกาลหน้า

รอสซียังไม่ตัดสินใจอนาคต

นัดบิดหน้าทะเล้นวัย 30 ปีที่มีสัญญาอยู่กับยามาฮ่าไปจนจบฤดูกาล 2010 ตกเป็นข่าวลือมากมายทั้งการเตรียมย้ายไปซิ่งรถสูตรหนึ่งกับเฟอร์รารี รวมถึงขยับไปขับแรลลีชิงแชมป์โลก ซึ่งล่าสุดมีกระแสข่าวว่ารอสซี กำลังถูกทาบทางจากดูตาติ ทีมคู่แข่งในศึกโมโตจีพี

ซึ่งรอสซีเผยหลังคว้าชัยชนะที่ซาน มาริโน ว่า "ผมยังไม่ตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคต ทุกอย่างน่าจะกระจ่างในปีหน้า เพราะผมยังมีสัญญาอยู่กับยามาฮ่าไปจบฤดูกาล 2010 แน่นอนมันเป็นความฝันของทุกคนในอิตาลีที่จะเห็นผมขับให้ดูคาติ มันเป็นเรื่องที่เราต้องรอดูกันต่อไป"

พร้อมกันนี้เจ้าของแชมป์โลก 8 สมัย ยังเอ่ยถึงความเป็นไปได้ในการโยกไปขับเอฟวันในอนาคตว่า "เวลานี้มันยังไม่เวลา แต่ผมไม่เคยพูดเลยว่าผมไม่สนใจที่จะร่วมทีมเฟอร์รารี ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องที่ผมยังให้คำตอบไม่ได้"

สำหรับรอสซีที่มีแต้มในรุ่นโมโตจีพีนำหน้าฮอร์เก ลอเรนโซ เพื่อนร่วมทีมอยู่ 30 แต้ม อยู่ในช่วงพักเบรกฤดูกาลเป็นเวลา 1 เดือน ก่อนจะกลับมาลงบิดอีกครั้งในศึกโปรตุกีส กรังด์ปรีซ์ ที่สนามเอสโตริล ประเทศโปรตุเกส วันที่ 4 ตุลาคมนี้


MGR Sport

หนุ่มเลี่ยนแชมป์ เสียดาย ‘ฟีม’ ชวดติดท็อป 6 อินดี จีพี

มาร์โก ซิมอนเชลลี ยอดนักบิดชาวอิตาเลียนคว้าแชมป์รุ่น 250 ซีซี ศึกอินเดียนาโพลิส กรังด์ปรีซ์ ขณะที่ “เจ้าฟีม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ น่าเสียดายที่รถมีปัญหาชวดทำอันดับสูงถึงที่ 6 ไปอย่างน่าเสียดาย

"ซิมอนเชลลี" ลงไปบิดคว้าชัยต่อเนื่อง


ศึกเวิลด์ จีพี สนามที่ 11 ของรุ่น 250 ซีซี รายการอินเดียนาโพลิส กรังด์ปรีซ์ 2009 ที่อินเดียนาโพลิส มอเตอร์ สปีดเวย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อคืนวันอาทิตย์เป็นการลงบิดชิงชัยกันในรุ่น 250 ซีซี โดย รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ สังกัดไทยฮอนด้า-พีทีที-แซค ออกตัวในกริดที่ 9

โดยการแข่งขัน 26 รอบ (ระยะทาง 109.616 กิโลเมตร) ปรากฏว่า มาร์โก ซิมอนเชลลี จากทีมกิเลรา ออกสตาร์ทในอันดับ 3 อาศัยจังหวะเบียดแซงทั้ง ไมค์ ดิ เมกลิโอ ตำแหน่งโพลโพซิชัน รวมถึง ฮิโรชิ อาโอยามา เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 45 นาที 43.599 วินาที ขณะที่ อาโอยามา ซึ่งออกตัวกริดที่ 2 คว้ารองแชมป์สนามนี้ไปครอง ด้วยเวลาที่ห่างจากแชมป์ 1.943 วินาที

ซึ่งจากชัยชนะสนามที่อินเดียนาโพลิส ทำให้ ซิมอนเชลลี คว้าชัยได้สองสนามติดต่อกันแล้วในรุ่น 250 ซีซี ทั้งยังเป็นการซิวแชมป์ 3 จาก 4 รายการหลังสุดด้วยของนักบิดประสบการณ์ปีที่ 4

ส่วน รัฐภาคย์ ทำผลงานเยี่ยมบิดขึ้นมาถึงอันดับ 6 ขณะที่เหลือการแข่งขันอีกเพียงสองรอบ แต่ “เจ้าฟีม” โชคร้ายสุดขีดรถดันมามีปัญหา ทำให้ต้องออกจากการแข่งขัน ชวดมีคะแนนติดมือไปอย่างน่าเสียดาย

ผลการแข่งขัน อินเดียนาโพลิส กรังด์ปรีซ์ รุ่น 250 ซีซี 5 อันดับแรก
1. มาร์โก ซิมอนเชลลี (อิตาลี / กิเลรา) เวลา 45 นาที 43.599 วินาที
2. ฮิโรชิ อาโอยามา (ญี่ปุ่น / ฮอนด้า) ตามหลัง 1.943 วินาที
3. อัลบาโร เบาติสตา (สเปน / อพรีเลีย) ตามหลัง 4.661 วินาที
4. ไมค์ ดิ เมกลิโอ (ฝรั่งเศส / อพรีเลีย) ตามหลัง 12.776 วินาที
5. โรแบร์โต โลคาเตลลี (อิตาลี / กิเลรา) ตามหลัง 15.475 วินาที

สรุปคะแนนรวม 5 อันดับแรก รุ่น 250 ซีซี หลังจบการแข่งขันไป 11 สนาม
1. ฮิโรชิ อาโอยามา (ญี่ปุ่น / ฮอนด้า) 192 คะแนน
2. อัลบาโร เบาติสตา (สเปน / อพรีเลีย) 176 คะแนน
3. มาร์โก ซิมอนเชลลี (อิตาลี / กิเลรา) 165 คะแนน
4. เฮคเตอร์ บาร์เบรา (สเปน / อพรีเลีย) 133 คะแนน
5. แมตเตีย ปาซินี (อิตาลี / อพรีเลีย) 100 คะแนน
14. รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ (ไทย / ไทยฮอนด้า-พีทีที-แซค) 43 คะแนน


"ลอเรนโซ" ได้ฉลองชัยในรุ่นโมโต จีพี


ส่วนผลการแข่งขันในรุ่นโมโต จีพี (28 รอบ) ปรากฏว่า ฮอร์เก ลอเรนโซ ยอดนักบิดชาวสเปนของทีมยามาฮ่า เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 47 นาที 13.592 วินาที ตามมาด้วย อเล็กซ์ เด แองเจลิส (ฮอนด้า) ที่เวลา 47 นาที 23.027 วินาที ขณะที่ นิคกี เฮย์เดน (ดูคาติ) ได้อันดับ 3 เวลา 47 นาที 26.539 วินาที


MGR Sport

"ฟีม" สุดเซ็งเครื่องพังชวดเก็บ 10 แต้มที่อินดี

รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกเวิลด์ จีพี สุดเซ็งกับผลงานของตัวเองที่เกือบจะเก็บ 10 แต้มจากอันดับที่ 6 ได้สำเร็จในศึกอินเดียนาโพลิส จีพี ทว่าต้องออกจากการแข่งขันในช่วง 2 รอบสุดท้ายเนื่องจากเครื่องพัง

ฟีม ชวดติดท็อป 6 อย่างน่าเสียดาย


"เจ้าฟีม" ที่ออกตัวจากกริดที่ 9 ในแถวที่ 3 ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งบิดเกาะกลุ่มท็อป 5 ได้แบบมีลุ้น ก่อนที่จะแซงเฮคตอร์ บาร์เบรา นัดบิดสแปนิช ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 6 ได้สำเร็จ ทว่ากลับต้องออกจาการแข่งขันทั้งที่เหลือเพียง 2 รอบสุดท้าย

ซึ่งนักบิดวัย 21 ปีจากทีมไทยฮอนด้า-พีทีที-แซค เผยด้วยความผิดหวังว่า "ผมออกสตาร์ทได้ไม่เลว ด้วยการขึ้นไปเกาะกลุ่ม 7 อันดับแรก จากนั้นอุบัติเหตุของจูเลส คลูเซล ชิ้นส่วนท่อไอเสียของเขากระเด็นมาถูกตัวผม แต่ยังโชคดีที่รอดมาได้ แต่ผมก็โชคดีไม่ตลอด เมื่อไปสะกิดกับรถของอเล็กซ์ เดอบอง"

"มันทำให้ท่อไอเสียของผมมีปัญหา ขณะเดียวกันผมไม่สามารถใช้คาบูเรเตอร์ได้อย่างเต็มกำลัง จนกระบอกสูบพังไปอีก 1 ตัว นี่คือความน่าเสียดายที่สุด เพราะมันกำลังจะเป็นวันที่ดีที่สุดของผม แต่ต้องมาจบลงเมื่อเหลือเพียง 2 รอบสุดท้าย" หนุ่มฟีมร่ายยาว

อย่างไรก็ดี "เจ้าลิงน้อย" ยังมองโลกในแง่ดีว่า "เราแสดงให้เห็นว่าเรามาถูกทาง สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนของผมที่ต้องเรียนรู้ หน้าที่ต่อไปคือการมองไปที่การแข่งขันสนามหน้าที่ซานมาริโน(6 ก.ย.นี้) ผมหวังว่าจังหวะและโอกาสน่าจะเข้าทางเราบ้าง"

สำหรับเจ้าฟีมเคยจบการแข่งขันดีที่สุดในชีวิตในอันดับที่ 5 ที่เลอ มังส์ ในช่วงต้นฤดูกาล ก่อนที่จะประสบปัญหารถคู่ใจไม่พร้อมสมบูรณ์มาตลอดในช่วงหลัง ส่งผลให้ยังมีแต้มอยู่ที่ 43 คะแนน รั้งอันดับ 14 ในตารางรุ่น 250 ซีซีเช่นเดิม


MGR Sport